ผู้ร้องที่มีความประสงค์จะขอทนายความเพื่อให้ความช่วยเหลือทางคดี จำเป็นที่จะต้องผ่านการขอคำปรึกษากฎหมายมาก่อน เมื่อได้รับคำปรึกษาและให้ข้อเท็จจริงต่อทนายความ/นิติกร/ผู้ให้คำปรึกษา (ผู้รับเรื่อง) และส่งมอบเอกสารหรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง พร้อมแจ้งความประสงค์ขอทนายความให้ความช่วยเหลือทางคดี เพื่อที่ผู้รับเรื่องจะพิจารณาต่อไปว่าคำขอนั้นเป็นไปตามเงื่อนไขการให้ความช่วยเหลือทางคดีหรือไม่
ศูนย์นิติศาสตร์ขออธิบายเกี่ยวกับเงื่อนไขและขั้นตอนการพิจารณาการให้ความช่วยเหลือทางคดี ดังนี้
1. หลักเกณฑ์การให้ความช่วยเหลือทางคดี ศูนย์นิติศาสตร์มีเงื่อนไขในการพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ดังนี้
(1) ผู้ขอความช่วยเหลือเป็นผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมในกรณีที่เกิดข้อพิพาท
(2) ผู้ขอความช่วยเหลือไม่มีส่วนร่วมในการกระทำความผิด
(3) ผู้ขอความช่วยเหลือเป็นผู้มีฐานะยากจน ไม่มีเงินเพียงพอว่าจ้างทนายความเข้าต่อสู้คดีในชั้นศาลได้
(4) รูปคดีทั้งข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมีทางที่จะให้ความช่วยเหลือได้
(5) ไม่เป็นคดีเกี่ยวด้วยปัญหาครอบครัว เว้นแต่เป็นคดีที่เกี่ยวกับการเรียกร้องค่าอุปการะเลี้ยงดูบุตร หรือสวัสดิภาพและประโยชน์สูงสุดของเด็กผู้เยาว์
2. หลักฐานที่จำเป็นต้องใช้สำหรับผู้ขอความช่วยเหลือทางคดี
(1) สำเนาบัตรประชาชน
(2) ข้อมูลของคู่กรณี (ถ้ามี)
(3) เอกสารหรือพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ขอความช่วยเหลือ
3. ขั้นตอนการให้ความช่วยเหลือ ได้แก่
(1) ผู้ร้องมาติดต่อขอความช่วยเหลือที่สำนักงานฯ ด้วยตนเอง
(2) ทนายความหรือนิติกร ผู้รับเรื่องมีหน้าที่สอบข้อเท็จจริงและให้คำปรึกษาเบื้องต้น
(3) รวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับกรณีที่ขอความช่วยเหลือ
(4) สรุปข้อเท็จจริงพร้อมทำความเห็นเพื่อเสนอที่ประชุม
(5) บันทึกข้อมูลลงในสารบบเพื่อการติดตามตรวจสอบการให้ความช่วยเหลือ
(6) พิจารณาคำร้องขอความช่วยเหลือโดยที่ประชุมศูนย์นิติศาสตร์ เพื่อพิจารณาว่าจะมีมติให้ความช่วยเหลือหรือไม่
4. กรณีมีมติให้ความช่วยเหลือ
(1) ที่ประชุมศูนย์นิติศาสตร์พิจารณาจ่ายสำนวนให้ทนายความรับผิดชอบดำเนินการ
(2) แจ้งมติที่ประชุมให้ผู้ร้องทราบ
(3) ติดต่อผู้ร้องเพื่อชี้แจงขั้นตอนการดำเนินคดี
(4) รวบรวมพยานหลักฐาน
(5) ร่างคำฟ้อง คำร้องหรือคำให้การ แล้วตรวจสอบความถูกต้อง
(6) ยื่นคำคู่ความต่อศาลภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
(7) ทนายความผู้รับผิดชอบคดีปฏิบัติงานตามที่ได้รับมอบหมาย
(8) รายงานการปฏิบัติงานต่อที่ประชุมฯ และแจ้งความคืบหน้าคดีแก่ผู้ร้อง
(9) ดำเนินการให้ความช่วยเหลือจนคดีถึงที่สุด
5. ข้อควรทราบในการขอความช่วยเหลือทางคดี
(1) กรณีไม่สามารถเดินทางไปขอความช่วยเหลือด้วยตนเองอาจมอบอำนาจให้คนในครอบครัวดำเนินการแทนได้
(2) กรณีผู้รับเรื่องแจ้งให้ส่งเอกสารที่จำเป็น ผู้ขอความช่วยเหลือต้องส่งเอกสารภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ด้วยความรวดเร็วต่อเนื่อง
เราใช้คุกกี้ในการวิเคราะห์การเข้าชมเว็บไซต์และปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ของคุณให้ดีขึ้น เมื่อยอมรับการใช้งานคุกกี้ของเรา เราจะรวบรวมข้อมูลของคุณกับข้อมูลผู้ใช้อื่น ๆ ทั้งหมด